วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เทคโนโลยีเมนบอร์ดและ CPU


เมนบอร์ด (Mainboard)


1.GIGABYTE Z77X-UD3H เมนบอร์ด Z77 กับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด Ultra Durable 4 



ด้วยกระแสของซีพียูสุดร้อนแรงในตระกูล Ivy Bridge จากอินเทลที่มาพร้อมกับกระบวนการผลิตในแบบ 22 nm ทำให้เมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่ใช้ชิปเซ็ต Z77 กลายเป็นอีกหนึ่งซีรี่ย์ที่ได้รับความนิยมขึ้นมาแทนที่ Z68 มากขึ้นเรื่อยๆ และ GIGABYTE ยักษ์ใหญ่แห่งวงการก็คงไม่พลาดที่ดันเมนบอร์ดในซีรี่ย์นี้ออกมาชนกับค่ายอื่นๆ ด้วยเช่นกัน
GIGABYTE Z77X-UD3H เมนบอร์ดในระดับปานกลางที่ใช้ชิปเซ็ต Z77 ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ของทางกิ๊กกาไบรท์อย่างครบถ้วน ซึ่งจะต่างจากในรุ่น D3H ที่จะตัดบางฟังก์ชั่นออกไป ซึ่งคงต้องดูให้ดีเพราะอาจจะซื้อผิดได้เพราะชื่อรุ่นนี้ตัดตัวอักษรออกไปแค่ตัวเดียวแถมหน้าตาของเมนบอร์ดยังเหมือนเคาะออกมาจากแท่นพิมพ์เดียวกันเลยทีเดียวจะต่างกันก็นิดหน่อยเท่านั้น
สำหรับการรองรับซีพียูก็ครอบคลุมหลายสิบรุ่นไล่มาตั้งแต่ Sandy Bridge ในรุ่นก่อนที่เป็น 1155 จนมาถึง Ivy Bridge ที่เป็ยซีพียูในแบบ 22 nm แต่ก็ใช้ซ็อกเก็ตเดียวกันทำให้สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปํยหา ทางด้านแรม DDR3 รองรับได้สูงสุดถึง 2666MHz ในโหมดโอเวอร์คล็อกกันเลยทีเดียว ซึ่งถึงว่าสูงมากที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้ถึงแม้ว่าจะไม่มีแรมรุ่นไหนในตลาดที่จะมีความเร็วมาตราฐานความเร็วนี้ออกมาก็ตาม สามารถใส่ได้สูงสุดที่ 32GB หรือแถวละ 8GB นั่นเอง
พอร์ตสตอเรจให้มาที่ 6 พอร์ต โดยแบ่งออกเป็น SATA 3Gb/s ทั้งหมด 4 พอร์ต และ SATA 6Gb/s อีก 2 พอร์ต รองรับ RAID 0, 1, 5 และ 10 แถมยังมี mSATA ที่อยุ่กึ่งกลางบอร์ดมาให้อีกหนึ่ง ซึ่งก็มีไว้เพื่อใช้งานกับ SSD ที่เป็นอินเทอร์เฟสนี้โดยเฉพาะเพื่อใช้งานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ในเทคโนโลยี Intel Smart Response แต่ในไทยก็อาจจะหาไดรฟ์ประเภทนี้ได้ยากซักหน่อย นอกจากนี้แล้วด้านหลังก็ยังให้ eSATA 6Gb/s มาอีก 2 พอร์ต มีความเร็วไม่ได้ต่างจากการต่อผ่านด้านหน้าแต่อย่างใดทำให้รวมกันแล้วก็มีอยู่ 8 พอร์ตด้วยกันเลยทีเดียว PCIe 3.0 x16 จัดมาให้ที่ 3 สล็อตซึ่งจะวิ่งที่ x16, x8 และ x4 ตามลำดับ สามารถรองรับได้ครบทั้ง CrossFireX และ SLI ส่วน PCIe x1 มีให้มาถึง 3 สล็อต และ PCI ให้มาอีกหนึ่ง
ตัวพีซีบีรุ่นนี้ทำออกมาแปลกตาจากบอร์ด GIGABYTE รุ่นอื่นๆ เพราะจะมาในโทนสีดำเป็นหลักเพียงสีเดียวเท่านั้นดูเรียบง่ายและไม่เล่นสีเหมือนรุ่นก่อนๆ จะมีก็แต่เพียงส่วนของฮีทซิงค์ทั้งสองจุดเท่านั้นที่จะใช้ฮีทซิงค์สีน้ำเงินซึ่งก็ตัดกับสีดำได้อย่างสวยงามดี ตรงกึ่งกลางบอร์ดจะมีสล็อต mSATA มาให้ด้วยสำหรับการใช้งานกับ SSD เพื่อใช้กับเทคโนโลยี Intel Smart Response หรือการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์กับตัว SSD ทำให้มีความเร็วในการใช้งานที่สูงขึ้น
นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดอย่าง Ultra Durable 4 ที่พัฒนากันมาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงในรุ่นที่สี่แล้ว มีจุดเด่นตรงการเพิ่มชั้นทองแดงขนาด 2 เท่ามาไว้ในส่วนของชั้นเลเยอร์ของตัวแผ่นพีซีบีส่งผลให้การกระจายความร้อนทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของภาคจ่ายไฟซีพียูที่จะมีความร้อนสูง อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มากถึง 50% เลยทีเดียว ส่งผลให้การโอเวอร์คล็อกทำได้ดีกว่าเดิม
ในส่วนของตัวพีซีบีเองก็มีการเปลี่ยนวัสดุมาใช้เป็น Glass Fabric ที่จะมีช่องว่างระหว่างเส้นใยแคบลงกว่าเดิมส่งผลให้ความชื้นเข้าไปสะสมได้น้อยลงส่งผลให้ตัวบอร์ดได้รับความเสียหายได้ยากยิ่งขึ้นอีกด้วย สามารถป้องกันปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรและความผิดพลาดของระบบที่เกิดจากสภาพอากาศที่มีความชื้นสูงได้ดี ทางด้านตัวคาปาซิเตอร์ก็เปลี่ยนมาใช้เป็น  โซลิด คาปาซิเตอร์ แท้ๆ จากญี่ปุ่นทั้งหมดที่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึงกว่าห้าหมื่นชั่วโมง ส่วนตัว Lower RDS(on) MOSFETs ก็มีอุณหภูมิต่ำกว่ารุ่นทั่วๆ ไป
ทางด้านหลังพอร์ตกราฟิกมากันครบทั้ง 4 รูปแบบไม่ว่าจะเป็น D-Sub, DVI, HDMI และ Display Port ที่สามารถรองรับความละเอียดได้สูงถึง 2560 x 1600 มี USB ซึ่งเป็นแบบ 2.0/3.0 คือใช้ได้ทั้งสองแบบไม่ต้องแยกกันเหมือนบอร์ดตัวอื่นอยู่ 6 พอร์ต มี eSATA 6Gb/s ให้มาอีก 2 พอร์ต ส่วนระบบเสียงใช้ชิปเสียงอย่าง VIA VT2021 ที่รองรับเสียงได้ถึง 7.1 แชนแนลและมีพอร์ตทั้งที่เป็นอนาล็อกและดิจิตอล


ผลการทดสอบ
หน้าจอในการปรับแต่งไบออสวิวัฒนาการมาเป็น 3D Bios ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของค่ายกิ๊กกาไบร์ตที่ไม่เพียงแต่จะใช้เมาส์และเป็นรูปแบบการปรับแต่งจากตัวหนังสือเป็นไอคอนต่างๆ แล้ว ยังล้ำสมัยมาด้วยการโชว์ภาพให้เห็นเมนบอร์ดทั้งตัวกันเลยทีเดียว และสามารถชี้ไปตามจุดต่างๆ เพื่อเลือกเข้าไปปรับในส่วนนั้นๆ ได้เลย นับว่าเป็นเจ้าแรกก็ว่าได้ที่ทำมาในรูปแบบนี้ แปลกใหม่และดูน่าสนใจดีไม่น้อยสำหรับผู้ที่เบื่อความซ้ำซากจำเจจากรุ่นอื่นๆ การปรับไฟเลี้ยงก็สามารถปรับได้ทาง 3D Bios หรือจะปรับแบบละเอียดก็ทำได้เช่นกัน โดยตัว Vcore ก็ปรับได้สูงสุดที่ +0.640mV QPI ได้ที่ 1.700V สำหรับการโอเวอร์คล็อกก็ทำได้ยอดเยี่ยมไม่แพ้บอร์ดชิปเซ็ต Z68 สามารถลากพาตัว Core i5-2500K จาก 3.3GHz ไปที่ 4.8GHz ได้ไม่ต่างกัน
สรุป
เมนบอร์ด Z77  ที่รองรับซีพียูได้ถึง Ivy Bridge พร้อมกับสล็อต mSATA กึ่งกลางบอร์ดสำหรับการใช้งานกับตัว SSD ที่ใช้อินเทอร์เฟสแบบนี้ เพื่อใช้งานในโหมด Intel Smart Response  สามารถใช้งานได้ทั้ง SLI และ CrossFireX มีพอร์ตกราฟิกครบทั้ง 4 รูปแบบ
จุดเด่น : เมนบอร์ด Z77 รองรับซีพียู Ivy Bridge 22nm  พร้อมกับเทคโนโลยี Virtu MVP
ข้อสังเกต : มี mSATA อยู่ออนบอร์ด
Quick Score 85% Excellent
Contact : GIGABYTE TECHNOLOGY  ( Thailand )
URL : http://th.giga-byte.com
Price : Call



2.GIGABYTE Z77X-UP7 ที่สุดของ Z77 เพื่อการโอเวอร์คล็อกพร้อม WiFi ในตัว


ในที่สุดก็มาถึงคิวของที่สุดเมนบอร์ดในระดับสูงสุดของซีรี่ย์ Z77 ที่ไปคว้ารางวัลต่างๆ มามากมายทั่วโลก หนึ่งในนั้นก็รวมไปถึงการทำสถิติเมนบอร์ด Z77 ที่สามารถโอเวอร์คล็อกได้สูงที่สุดเป็นสถิติโลกถึง 7.102GHz อีกด้วย ดังนั้นจึงมั่นใจได้เลยว่าความสามารถในการโอเวอร์คล็อกของบอร์ดตัวนี้เข้าขั้นเทพอย่างแน่นอน
GIGABYTE Z77X-UP7 เมนบอร์ดในซีรี่ย์ Z77 รุ่นสูงสุดที่จัดเต็มมาให้ครบทุกฟีเจอร์เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเป็นที่สุดในทุกๆ ด้านและไม่เกี่ยงเรื่องราคาที่ค่อนข้างจะสูงเช่นกัน มาพร้อมกับภาคจ่ายไฟที่มากถึง 32+3+2 เฟส น่าจะมากที่สุดในขณะนี้แล้วก็ว่าได้ ดังนั้นจึงมั่นใจในเรื่องเสถียรภาพในการใช้งานรวมไปถึงความสามารถในการโอเวอร์คล็อกได้อย่างแน่นอน เพราะมีตำแหน่งการันตีความสามารถในการเพิ่มความเร็วได้สูงถึง 7GHz เป็นเครื่องยืนยันถึงแม้ว่าอาจจะใช้อุปกรณ์ระบายความร้อนแบบทั่วๆ ไปคงไม่มีทางทำได้ถึงขนาดนั้นก็ตาม แต่เพียงแค่ระดับ 5GHz ขึ้นไปก็คิดว่าคงไม่น่าจะมีปัญหา เพียงแค่นี้ก็คุ้มค่าที่จะลงทุนกับบอร์ดตัวนี้แล้ว
ทางด้านซีพียูที่รองรับนับถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปกว่า 100 รุ่นเข้าไปแล้วเพราะครอบคลุมซ็อกเก็ต 1155 ตั้งแต่ Sandy Bridge ไปจนถึง Ivy Bridge ที่เป็น 22 nm ตั้งแต่รุ่นเล็กสุดอย่าง Celeron ไปจนถึง Xeon มีซ็อกเก็ตแรม DDR3 อยู่ 4 DIMM รองรับความเร็วได้ตั้งแต่ 1066MHz ไปจนสูงสุดถึง 2800GHz หรือสูงกว่านี้ขึ้นไปอีกถึงแม้ว่าในปัจจุบันยังไม่มีแรมความเร็วระดับนี้วางขายก็ตาม แต่ก็แสดงให้เห็นว่าบอร์ดตัวนี้สามารถรองรับไปได้อีกยาวนาน
พอร์ตสตอเรจจัดมาให้ถึง  10 พอร์ต ด้วยชิปเซ็ตสองตัวด้วยกัน โดยแบ่งออกเป็น SATA 3Gb/s ทั้งหมด 4 พอร์ต และ SATA 6Gb/s อีก 6 พอร์ต รองรับ RAID 0, 1, 5 และ 10 แถมยังมี mSATA ที่มักจะเอาไว้ใช้กับตัว SSD อยู่ด้านหลังพอร์ต SATA มาให้ด้วย เพื่อใช้งานร่วมกับฮาร์ดดิสก์ในเทคโนโลยี Intel Smart Response PCIe 3.0 x16 จัดมาให้ถึง 5 สล็อตซึ่งจะวิ่งที่ x16 อยู่ 3 สล็อตและ x8 อีก 2 สล็อต สามารถรองรับได้ครบทั้ง 4-Way, 3-Way และ 2-Way CrossFireX และ nVidia SLI ส่วน PCIe x1 มีให้มาอีก 2 สล็อต โดยตัดเอา PCI ออกไปดังนั้นผู้ที่มีการ์ดรุ่นนี้อยู่ก็คงต้องเลิกใช้
ตัวพีซีบีมาในโทนสีดำและส้มเพียงสองสีเท่านั้นเป็นหลักซึ่งจะตัดสลับกันไปมาอย่างลงตัว ตัวฮีทซิ้งค์ระบายความร้อนในแต่ละส่วนก็ออกแบบมาได้อย่างสวยงามซึ่งมีอยู่ถึง 4 ตัวด้วยกันซึ่งเชื่อมต่อกันด้วยฮีทไปป์ทำให้การส่งผ่านความร้อนเป็นไปได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้นและยังช่วยลดความร้อนลงไปได้ไม่น้อยเสริมด้วยเทคโนโลยี Ultra Durable 5 ที่เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของเมนบอร์ดกิ๊กกาไบรต์ในทุกๆ รุ่น ซึ่งมีจุดเด่นตรงการเพิ่มชั้นทองแดงขนาด 2 เท่ามาไว้ในส่วนของชั้นเลเยอร์ของตัวแผ่นพีซีบีส่งผลให้การกระจายความร้อนทำได้อย่างรวดเร็วมากขึ้นโดยเฉพาะในส่วนของภาคจ่ายไฟซีพียูที่จะมีความร้อนสูง อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้มากถึง 50% ส่งผลให้การโอเวอร์คล็อกทำได้ดีกว่าเดิม โดยมีภาคจ่ายไฟสูงถึง  37 เฟส โดยแบ่งเป็นซีพียู 32 เฟสกันเลยทีเดียวน่าจะมากสุดในขณะนี้ก็ว่าได้
ทางด้านมุมบอร์ดตรงส่วนของซ็อกเก็ตแรมก็จะเห็นปุ่มที่มีมาให้หลายปุ่มด้วยกัน ทั้งปุ่มพาวเวอร์และเคลียร์ซีมอสแต่ที่เพิ่มเข้ามาอีกห้าปุ่มก็คือปุ่มสำหรับการโอเวอร์คล็อก ทั้งการเพิ่มความเร็วบัสและการเพิ่มตัวคูณเรโช ซึ่งสามารถปรับเพิ่มลดได้ครั้งละ 1MHz ซึ่งนับว่าละเอียดไม่ต่างจากการปรับในหน้าไบออส ทำให้ไม่จำเป็นต้องเข้าหน้าไบออสก็สามารถเพิ่มความเร็วได้ทันทีเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอมการโอเวอร์คล็อกน่าจะถูกใจเป็นพิเศษ
ด้านหลังมีพอร์ตกราฟิกครบทั้ง D-Sub, DVI, HDMI และ Display Port มีแลนในแบบ Dual Gigabit LAN ถ้ายังไม่พอก็ยังมีการ์ดแลนในแบบ Dual WiFi พ่วงด้วย Bluetooth 4.0 มาให้ด้วยอีก ซึ่งสามารถเสียบเสาได้สองตัวพร้อมกันเพื่อเพิ่มความแรงในการรับส่งสัญญาณแต่ก็ต้องเสียบผ่านสล็อต PCIe x1 ถึงจะใช้งานได้
ผลการทดสอบ
หน้าจอไบออสก็ยังคงใช้ควบคู่กันระหว่าง 3D BIOS และแบบดั้งเดิมที่เหมาะสำหรับผู้ที่ชำนาญการปรับแต่งแล้วแต่ที่เหมือนกันก็คือสามารถใช้เมาส์ได้ทั้งสองโหมด แต่ถ้าเป็น 3D ก็จะดูง่ายกว่าเพราะเลือกจิ้มในส่วนที่เราจะปรับแต่งได้ทันทีจะโอเวอร์คล็อกก็ชี้ไปที่ซ็อกเก็ตซีพียูแล้วก็เข้าไปเพิ่มความตัวคูณเรโช เพิ่มความเร็วบัส ปรับความเร็วแรม ได้อย่างง่ายดายไม่ยุ่งยาก สามารถปรับเพิ่มแรงดันไฟจากจุดนี้ได้เช่นกัน ตัว Vcore ได้สูงสุดที่ 1.850V และแรมได้สูงสุด 2.100V หรือถ้าจะปรับแบบละเอียดก็ชี้ไปตรงส่วนของ 3D Power ที่จะพาเข้าไปส่วนของการปรับแต่งส่วนต่างๆ ได้ละเอียดไม่แพ้โหมด Advanced การโอเวอร์คล็อกก็ทำได้อย่างง่ายดายตามสไตล์กิ๊กกาไบรต์ที่ขึ้นชื่อด้านนี้อยู่แล้ว สามารถลากพาตัว Core i5-3570K จาก 3.4GHz ไปที่ 4.8GHz ได้อย่างสบาย
สรุป
เมนบอร์ดชิปเซ็ต X79 จากกิ๊กกาไบรต์ที่ถูกจัดให้เป็นรุ่นใหญ่สุดของซีรี่ย์ มีพอร์ตกราฟิกครบทุกรูปแบบ แลนมีทั้ง Dual Gigabit LAN และ  Dual WiFi พร้อมเสาสองตัวที่ต่อผ่าน PCIe x1 รวมไปถึง Bluetooth 4.0 เรียกว่าครบถ้วนทีเดียวด้านเน็ตเวิร์ค ที่สำคัญรองรับ 4-Way ทั้ง SLI และ CrossFire คอเกมเมอร์น่าจะถูกใจไม่น้อย
จุดเด่น : เมนบอร์ด Z77 ที่รองรับ 4-Way CrossFireX และ nVidia SLI มีการ์ด WiFi พร้อม Bluetooth 4.0 มาให้ด้วย
ข้อสังเกต : ไม่มี PCI
Quick Score 89% Excellent
Contact : GIGABYTE TECHNOLOGY  ( Thailand )
URL : http://th.giga-byte.com
Price : Call



3.Gigabyte Z77X-UP5TH เมนบอร์ด Z77 พร้อมเทคโนโลยี Thunderbolt


อีกหนึ่งเมนบอร์ด Z77 จากค่าย GIGABYTE ที่นอกจากจะจัดเต็มทั้งทางด้านฟีเจอร์และเทคโนโลยีต่างๆ กันมาครบถ้วนไม่ต่างจาก Z77 รุ่นก่อนหน้านี้แล้วยังมาพร้อมกับเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดจริงๆ อย่าง Thunderbolt ที่ถือว่าเป็นพอร์ตแห่งอนาคตซึ่งน่าจะกลายเป็นมาตรฐานต่อไปอย่างแน่นอน โดยสิ่งที่พิเศษของพอร์ตชนิดนี้คือนอกจากจะส่งผ่านข้อมูลเหมือน USB ได้เร็วกว่าแล้วยังสามารถใช้แทนพอร์ตกราฟิกได้อีกด้วย
GIGABYTE Z77X-UP5TH  เมนบอร์ดชิปเซ็ต Z77 สามารถรองรับซีพียูในแบบ 22 nm หรือ Ivy Bridge ที่ออกมาในขณะนี้ได้ทุกรุ่น ทุกความเร็ว พร้อมพอร์ตกราฟิกแบบครบเซ็ต D-Sub, DVI, HDMI, Display Port รวมไปถึง Thunderbolt ที่จัดว่าเป็นพอร์ตกราฟิกได้ด้วยเช่นกันที่ให้มาถึง 2 พอร์ต นอกจากนี้ยังสามารถใช้แทน USB 3.0 ได้อีกต่างหากแถมยังมีความเร็วสูงถึง 10Gb/s มากกว่า USB 3.0 ที่มีความเร็ว 5Gb/s ถึงสองเท่าและเร็วกว่า USB 2.0 ถึง 20 เท่าด้วยกัน พร้อมกับการต่อพ่วงอุปกรณ์ได้มากถึง 12 ตัวด้วยกันผ่านทางเพียงสองพอร์ตนี้เท่านั้น



Central Processing Unit
CPU Socket Type: LGA 1155
CPU Type: Intel Core i7 / i5 / i3 / Pentium / Celeron (LGA1155)
Chipsets: Intel Z77 Express Chipset
Memory
Number of Memory Slots: 4×240pin
Memory Standard: DDR3 2800/2600 (OC*)/1600MHz
Maximum Memory Supported: 32GB
Channel Supported: Dual Channel
Graphics
Onboard Graphics: 1 x D-Sub port, 1 x DVI-D port, 1 x HDMI port, 2x Thunderbolt ports (Intel DSL3510L chip)
Expansion Slots
PCI Express 3.0 x16: 3 (x16, x8, x4)
PCI Express x1: 3
PCI Slots: 1
Storage Devices
SATA 3Gb/s: 4
SATA 6Gb/s: 3
Chipset: 2 x SATA 6Gb/s (SATA3 0/SATA3 1), 4 x SATA 3Gb/s (SATA2 2~5) and 1 x mSATA Support for RAID 0, RAID 1, RAID 5, and RAID 10
Marvell 88SE9172: 1 x SATA 6Gb/s connector (GSATA3) and 1 x eSATA 6Gb/s connector Support for RAID 0 and RAID 1
Onboard Audio
Audio Chipset: Realtek ALC898
Audio Channels: 2/4/5.1/7.1-channel
Support for X-Fi Xtreme Fidelity® and EAX® Advanced HD™ 5.0 technologies
Support for S/PDIF In/Out
Onboard LAN
Max LAN Speed: 10/100/1000Mbps
Rear Panel Ports
1x D-Sub port
1x DVI-D port
1x optical S/PDIF Out connector
1x HDMI port
2x Thunderbolt ports
1x eSATA 6Gb/s connector
4x USB 3.0/2.0 ports
2x USB 2.0/1.0 ports
1x RJ-45 port
5x audio jacks (Center/Subwoofer Speaker Out, Rear Speaker Out, Line In, Line Out, Mic In)
Internal I/O Connectors
1x 24-pin ATX main power connector
1x 8-pin ATX 12V power connector
1x PCIe power connector
3x SATA 6Gb/s connectors
4x SATA 3Gb/s connectors
1x mSATA connector
1x CPU fan header
4x system fan headers
1x front panel header
1x front panel audio header
1x S/PDIF Out header
1x S/PDIF In header
3x USB 3.0/2.0 headers
2x USB 2.0/1.1 headers
1x IEEE 1394a port
1x Clear CMOS jumper
1x Trusted Platform Module (TPM) header
1x power button
1x reset button
1x Clear CMOS button
1x BIOS switch button
Voltage Measurement Points
Form Factor: ATX
Dimensions: 12.0″ x 9.6″
Power Pin: 24 Pin
Unique Features                                                     
Support for @BIOS
Support for Q-Flash
Support for Xpress Install
Support for Xpress Recovery2
Support for EasyTune
Support for eXtreme Hard Drive (X.H.D)
Support for Auto Green
Support for ON/OFF Charge
Support for Q-Share
Support for 3D Power
Support for EZ Setup





4.BIOSTAR แนะนำเมนบอร์ด Hi-Fi B85N 3D รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับ Mini ITX





BIOSTAR, ผู้ผลิต motherboardsและ graphics cards, ระบบคอมพิวเตอร์สำหรับอุตสาหกรรม และอุปกรณ์ต่อพ่วง ได้เผยโฉม “Hi-Fi Z87X 3D “ เป็น motherboard รุ่นล่าสุดสำหรับ Haswell ซีพียู Intel generation ใหม่ และมาพร้อมเทคโนโลยีเอกสิทธิเฉพาะของตนเอง เรียกว่า “Hi-Fi 3D”.
The Hi-Fi Z87X 3D คือ motherboard ATX สำหรับ socket 1150. Hi-Fi Z87X 3D, อัดแน่นไปด้วยคุณสมบัติระดับ high-end เช่น USB 3.0, HDMI และ PCI-E. “Hi-Fi 3D” คือ เทคโนโลยีเอกสิทธิเฉพาะของ Biostar เมนบอร์ดทุกตัวจาก BIOSTAR ในตระกูล Hi-Fi series motherboards ผ่านการคัดเลือกส่วนประกอบที่พิเศษ เพื่อให้ท่านมั่นใจว่าจะได้รับฟังเสียงที่มีคุณภาพ และเที่ยงตรงที่สุด. Hi-Fi Z87X 3D มาพร้อมคุณสมบัติหลักๆดังนี้

Hi-Fi 3D Technology ทำหน้าที่เพิ่มมิติของเสียงให้สมจริงมากที่สุด โดยเทคโนโลยีชิ้นนี้ได้จำลองการได้ยินของมนุษย์ ซึ่งเทคโนโลยี Hi-Fi 3D นั้นเหนือกว่า เทคโนโลยี sound enchancement และ virtualization ที่มีอยู่ ณ ขณะนี้

Smart Ear 3D มีความสามารถในการสร้างเสียงให้มีมิติที่สมจริง และสามารถใช้ได้กับหูฟังทุกๆรุ่นๆ Smart Ear 3D ช่วยให้การฟังเพลง รับชมภาพยนตร์ และการเล่นเกมส์ มีอรรถรส และสร้างสรรค์ มิติการรับฟังที่สมจริง

3D Sound Fields ท่านสามารถเลือกการรับฟังได้ถึงหกแบบ ได้แก่ Hi-Fi Theater, Hi-Fi Hall, Hi-Fi Game spots, Hi-Fi Studio, Hi-Fi Conference, และ Hi-Fi Bistro, BIOSTAR Hi-Fi 3D technology มีการจำลองแหล่งกำเนิดเสียงแบบ 3d ได้แก่ ด้านหลัง ด้านหน้า ด้านบน/ล่าง เพื่อเพิ่มมิติให้มีความลึกมากขึ้น และสมจริงในการรับฟัง



ทุกๆ motherboard ใน ตระกูล BIOSTAR Hi-Fi-3D มาพร้อม ภาคขยายเสียงภายในตัวที่เรียกว่า 3D amplifier และ มีอัดแน่นไปด้วยพลังจะขับหูฟัง high-end 3D amplifier รองรับโหลดมากกว่า 100dB และความต้านทานสูงถึง 600ohm ทั้งหมดเพื่อการรับฟังที่สมจริง และเสียงที่เต็มอิ่ม

Smart Ω คือฟังก์ชั่นเอกสิทธิจาก BIOSTAR’s Hi-Fi 3D ไม่ว่าคุณจะใช้ headphone อะไร Smart Ω จะทำหน้าที่ค้นและปรับค่า impedance ให้เหมาะสม

Hi-Fi 3D Technology มาพร้าม “pre-amp”, และ power amplifier ในตัว นอกจากความสามารถด้านการขยายเสียง คุณสามารถมั่นใจว่าจะได้รับฟังเสียงระดับ high-quality HD audio. Hi-Fi 3D นอกจากจะทำให้เสียงจากหูฟังขึ้นแล้ว ยังสามารถให้เสียงที่ออกมาผ่านลำโพงดีและกระชับขึ้นอีกด้วย

Hi-V Cap คือ Polypropylene Film Capacitor ชนิด โลหะ ออกแบบแยกอิสระสำหรับ แต่ละวงจร audio channel. audio capacitors ที่ออกแบบพิเศษนี้ช่วยตัดสัญญาณรบกวนได้ดีเยี่ยม ลดเสียงแตกพร่า และ เพิ่มความกว้างของช่องสัญญาณเพื่อให้ได้มวลเสียงที่เต็มอิ่ม

BIOSTAR Hi-Fi series motherboards มี sampling rate ที่ 192kHz/24-bit มีความสามารถในการส่งสัญญาณเสียงที่ดีและมีคุณภาพ ผ่านช่องต่อแบบ analog connection ไปยังระบบ home theater, ชุดลำโพงแบบ multi-channel หรือ high-end headphones. ท่านสาราถเอิบอิ่มไปกับอรรถรส ของ true Blu-ray grade high-definition sound ซึ่งไม่สามารถหาได้จาก PC ทั่วไป


Multi-Channel Calibration (MCC) จะช่วยเปลี่ยนห้องของท่าน ให้มีความเหมาะสมในการรับฟังเสียง ด้วย (MCC), ประสิทธิภาพเสียงจะถูกปรับแต่งอย่างอัตโนมัติตามขนาดของห้อง เพียงแค่ท่านติดตั้ง microphone mcc ณ.จุดที่ฟัง และใช้ MCC software ที่มาพร้อมกับ motherboard ของท่าน.


5.BIOSTAR แนะนำเมนบอร์ด Hi-Fi B85N 3D รุ่นใหม่ล่าสุดสำหรับ Mini ITX




BIOSTAR ประกาศเปิดตัวเมนบอร์ด mini-ITX ใหม่ล่าสุดบนชิปเซ็ท Intel B85 สำหรับโมเดล Hi-Fi B85N 3D ที่ครอบคลุมไปด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังช่วยเติมเต็มระบบคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก (SFF – Small Form Factor) สำหรับบอร์ด mini-ITX ที่สามารถประหยัดการใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยคุณสามารถเปลี่ยนให้เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งเป็น Home Theater PC ได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณ
BIOSTAR Hi-Fi B85N 3D รองรับการทำงานโปรเซสเซอร์ Intel 4th Generation Core i7 และ Core i5 สำหรับซ็อกเก็ต LGA 1150 ที่ใช้สถาปัตยกรรม Intel B85 โดยมีสล็อทเมเมอรี่ 2-DIMM DDR3-1600/1333 สูงสุดถึง 16GB และมาพร้อมกับพอร์ตการแสดงผม DVI, VGA และ HDMI ที่รองรับความละเอียด 4K/2K สำหรับการแสดงผลระดับ High Definition
นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านเทคโนโลยี BIOSTAR ยกตัวอย่างเช่น ขุมพลังแห่งเสียงที่ได้มีการยกระดับด้วย Hi-Fi Power, Hi-Fi AMP และ เพิ่มคุณภาพเสียง Amplifier สำหรับหูฟังได้ทุกช่วงเวลา ด้วยชิปเซ็ทของ Intel คุณจะได้รับเทคโนโลยี Intel SBA 2.0 (Small Business Advantage) รวมไปถึง Intel Rapid Start Technology และ Intel Smart Connect Technology
ด้วยพอร์ต HDMI ที่มีติดตั้งบนเมนบอร์ด ทำให้คุณสามมารถรับชมวิดีโอและเสียงได้อย่างเต็มประสิทธิภาพบนเมนบอร์ด Hi-Fi B85N 3D นอกจากนี้ยังเหมือนกับเมนบอร์ดทุกรุ่นของ BIOSTAR ที่ได้เลือกใช้ 100% solid Capacitor ทั้งหมด
BIOSTAR Hi-Fi H81 S3 ผ่านการรับรองการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 8 และมีคุณสมบัติ BIO-Remote2 และ BIOS Online Update สำหรับระบบการจัดการที่ง่ายดายสำหรับ BIOS ของคุณ



6.CPU AMD FX (938+)
เรามาดูรุ่น AMD FX (938+) สำหรับรุ่นนี้มีแบ่งเป็น 3 รุ่นและราคาที่แตกต่างกันเช่นกัน  เอาเป็นว่าผมรวมให้เลยก็แล้วกันตัวนี้จะมีราคาตั้งแต่ถูกไปยังราคาสูง
AMD FX-4xxxx ราคาจะอยู่ที่ 3 พันกว่าๆ  สามารถทำงานได้ออฟฟิตทั่วไปได้ดีทำงานได้ดีกับพิมพ์งาน เล่นเน็ต  แต่สามารถเล่นเกมได้เช่นกัน  ต้องบอกว่าประสิทธิในด้านกราฟฟิกเองก็มีความเร็วได้ดี

AMD FX-6xxx  ราคาจะอยู่ที่ 4 พันกว่าถือได้ว่าเป็น CPU ที่มีประสิทธิภาพมากเลยทีเดียวจากการทดสอบจากค่ายต่างๆ ในด้านของคุ้มค่าแล้ว  สามารถทำงานได้ดีทุกรูปแบบ
AMD FX-8xxx มีขนาดถึง 8 Core เลยทีเดียวแต่ว่าราคาก็จะอยู่ที่ 6 พันขึ้นไป แต่ว่าในเรื่องที่ระบบแล้วอาจจะทำให้เจ้าตัวนี้ไม่คุ้มราคาเท่าไหร่เนื่องจากว่าฟังก์ชั่นการรองรับต่างๆ แล้วไม่ราคาที่จะรีดพลังออกมาได้  จึงกลายเป็นคนที่สัมผัสความเร็วเจ้าตัวนี้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร

มาดู AMD FM1 APU (905) อาจจะเรียกว่า APU ก็ได้แต่ก็เป็นหน่วยประมวลผลกลางนั่นล่ะครับ  แต่ว่า APU เพราะว่ามีความพิเศษกว่า CPU ทั่วไปเนื่องจากได้เพิ่มการทำงานของการประมวลด้านกราฟฟิก สรุปคือเราไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อการ์ดจอเพิ่มก็สามารถที่จะเล่นเกม 3 มิติได้ดี สามารถที่จะประหยัดงบประมาณตรงนี้ไปได้  เหมาะสมกับคอเกมทั้งหมายที่มีงบประมาณที่จำกัด  และร้านเกมจะประหยัดงบประมาณไปได้มาก แค่ไม่เท่าไหร่ก็ซื้อคอมพ์มาเล่นเกมได้แล้ว จะมีความเร็วอยู่ที่ 2500 - 3000 MHz ราคาอยู่ที่  1600 – 4000

ยังมี CPU รุ่นต่าง ที่มีขายตามท้องตลาด อย่างเช่น Phenom , Athlon และ Sempron ที่มีการวางจำหน่ายอยู่ที่มีราคาที่ถูกๆ




7. CPU Intel Core i 3

i 3 เป็น CPU ระดับล่าง  ความสามารรถนั้นก็เล่นเน็ตพิมพ์งานหรือว่าทำงานออฟฟิตทั่วไปได้อย่างสบายเลยทีดี  ไม่ว่าดูหนังหรือว่าเล่นเกมบางอย่างได้ดีในราคาที่ไม่สูง  ส่วนใหญ่จะมีจำหน่ายมากที่สุดเพราะว่าสามรถทำงานได้อย่างดีกับผู้ใช้งานทั่วๆไปไม่ต้องใช้งานหนักมาก  ถ้าเป็นคนทีทำงานทั่วไปพนังงานราชการก็เหมาะ  หรือว่านักเรียนนักศึกษานิยมใช้กัน  ความเร็วตามท้องตลาดที่จำหน่ายจะอยู่ที่  3.1 – 3.3 GHz และมี Socket 1115  มีขนาด 2 Core  4 Threads เท่านั้น ราคาจะอยู่ที่ 3,000 – 4,000 ไม่แพง




8. CPU Intel Core i 5
i 5  เป็น CPU ระดับกลาง  ความสามารถนั้นรองรับการประมวลผมได้สูงเช่นกันแต่ไม่มากเหมาะสำหรับผู้ใช้งานได้กราฟฟิก และมัลติมีเดียได้เช่นกัน  แต่ใช้ไปอาจจะไม่เร็วเท่า I 7 อาจจะมีอืดไปนิดๆ แต่ถือได้ว่ามีความคุ้มกว่าในปัจจุบันแล้วเกมสามารถเล่นได้ทุกประเภท  และมีความนิยมมากเพราะว่าราคาไม่แพงเวอร์  สามารถซื้อได้คุ้มๆ เช่นกัน  ไม่ว่าจะเรื่องประสิทธิภาพและความเร็ว ความเร็วตามท้องตลาดที่จำหน่ายจะอยู่ที่  3.0 – 3.4 GHz และมี Socket 1115 มีขนาด 4 Core  4 Threads ราคาจะอยู่ที่ 5,000 – 7,000 ไม่แพงมาก  สำหรับคนที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความเร็วในระดับดี







9. CPU Intel Core i 7

ระดับสูงของ intel
i 7  เป็น CPU ที่เป็นระดับสูงของทาง intel  สามารถใช้งานได้ด้านประมวลผลสูงๆ ได้ดีไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิก การตัดต่อวีดีโอ  ตัดต่อรูปภาพ หรือเล่นเกมหลักๆ  ต้องเป็นตัวนี้เลย  คุณสมบัติคือเป็น CPU ที่มีขนาด 4 Core  8 Threads สามารถที่จะประมวลผลได้เร็วมาก  รองรับการใช้งานได้ทุกรูปแบบในปัจจุบันเลยก็ว่าได้  ความเร็วตามท้องตลาดที่จำหน่ายจะอยู่ที่  3.4 – 3.9 GHz และมี Socket 1115  และ Socket 2011 ราคาจะอยู่ที่  9,000 – 35,000 เลยทีเดียวต้องบอกว่าสำหรับผู้ที่มีงบประมาณเยอะและผู้ทำงานด้านคอมพิวเตอร์เป็นหลักถึงจะคุ้มค่า แต่ก็มีหลายฟังก์ชันที่ไม่ครอบคลุม  จึงทำให้รีดพลังจริงๆ ของ CPU ตัวออกมาได้ไม่หมด





10.AMD Fusion

AMD Fusion เป็น codename ที่ AMD ใช้เรียกชื่อซีพียูสายการผลิตใหม่ ด้วยการผนวกรวมเอาซีพียูและ GPU (Graphic Processing Unit : GPU) ไว้ใน Die เดียวกัน หรือเรียกง่าย ๆ ว่า APU (Accelerated Processing Unit : APU) โดยชิป APU ตัวแรกมีชื่อรหัสในการพัฒนาว่า Llano AMD Fusion ได้รับการออกแบบมาเพื่อการใช้งานบนคอมพิวเตอร์โมบาย เช่น Notebook Netbook หรือTablet ซึ่งเรื่องการประหยัดพลังงานเป็นสิ่งสำคัญในการยืดจำนวนชั่วโมงการทำงานของแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
flickr:5728887215
ที่มา : http://www.vmodtech.com/main/article/amd-fusion-launch-in-thailand/4/
ภาพงาน AMD “Fusion Launch in Thailand”
สถาปัตยกรรม AMD Fusion APU
AMD Fusion APU เป็นซีพียูแบบ Multi-Core ประกอบขึ้นมาจากคอร์ Phenom II แบบ 32 นาโนเมตรที่มีได้สูงสุดสี่คอร์ และใช้โปรเซสเซอร์กราฟฟิก (GPU) ที่มากับ VISION Engine ซึ่งรองรับ DirectX 11, UVD3 และสนับสนุนวีดีโอ HD 1080p พร้อมต่อออกทีวีผ่านพอร์ท HDMI
flickr:5728888433
จุดเด่นของ AMD Fusion APU
จุดเด่นหลัก ๆ ของ AMD Fusion คือ
1. เป็นซีพียูที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เมื่อเทียบกับซีพียูในระดับใกล้เคียงกัน แต่ใช้พลังงานต่ำลง
flickr:5728889229
ที่มา : http://www.amd.com/us/products/notebook/apu/Pages/apu.aspx
ภาพแสดงส่วนประกอบหลักของ APU
จากรูปจะเห็นได้ชัดว่า AMD ต้องการสื่อให้เห็นว่า AMD Fusion นั้นผนวกรวมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชิปเซต ซีพียู และการ์ดจอเอาไว้ใน CPU ตัวเดียวกัน พร้อมการสื่อให้เห็นถึงการประหยัดพลังงานเป็นพิเศษ จากอุปกรณ์ทั้ง 3 ชนิด ใช้พลังงานรวม 46 วัตต์ แต่ APU ใช้พลังงานเพียงแค่ 18 วัตต์เท่านั้น
2. ขนาดของซีพียูที่เล็กลงอย่างมาก จึงเหมาะสำหรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์แบบพกพา ที่ต้องออกแบบให้มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก
flickr:5728890249
จากภาพเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงขนาดของ AMD Fusion เทียบกับ AMD Phenom II ที่มีขนาดเล็กมาก ทำให้สามารถออกแบบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ได้หลากหลายและมีขนาดที่เล็กลงมากขึ้น
3. AMD Fusion สามารถประมวลผลด้านกราฟิกได้เหนือกว่าการ์ดจอแบบแยกชิ้นบางรุ่น โดยสามารถรองรับการชมภาพยนตร์และการ Streaming ระดับ High-Definition รวมทั้งการสนับสนุน DirectX 11 จากตัว APU เอง ทำให้สามารถใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น
4. GPU ที่รวมเข้าไปในซีพียูของ AMD ได้รับการวิจารณ์ว่าเหนือว่า GPU ของ Intel เพราะว่าสถาปัตยกรรม GPU ของ Intel นั้น ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผลแบบขนานเหมือนกับ GPU ของ AMD ที่แยกไปในซีพียูแต่ละตัวเลย
AMD Fusion APU ที่จำหน่ายในปัจจุบัน
APU ที่เปิดตัวใหม่มีสองตระกูล คือ Zacate และ Ontario ซึ่งจะแบ่งตามการใช้งานตั้งแต่ระดับ Netbook ไปถึง Notebook ประสิทธิภาพสูง แต่ก็ยังเน้นการประหยัดพลังงาน
- E Series (Zacate) สำหรับ Notebook ทั่วไป หรือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป All-in-one
- C Series (Ontario) สำหรับ Netbook และ Tablet

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น